เปิดประตูสู่การเป็นเจ้าของร้าน กับสารพัดอุปกรณ์เปิดร้านกาแฟ

เพราะหนทางสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟ ไม่ใช่แค่มีเงินทุนอย่างเดียวก็ทำได้ แต่จำเป็นต้องมีใจรักในศาสตร์ที่เกี่ยวกับกาแฟ รวมถึงพร้อมที่จะเรียนรู้ไปกับทุกสิ่งที่จะช่วยเปลี่ยนเมล็ดกาแฟสู่เครื่องดื่มแก้วโปรดของใครหลายคนด้วย

หนึ่งในสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้ เพื่อก้าวสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟอย่างที่ใจฝัน คือการรู้ถึงอุปกรณ์เปิดร้านกาแฟ ซึ่งมีอยู่มากมายให้ครบถ้วน ในบทความนี้ เราจะขอพาไปทำความรู้จักกับอุปกรณ์สำหรับเริ่มต้นเปิดร้านกาแฟว่ามีอะไรบ้าง ติดตามได้เลย  

อุปกรณ์ชงกาแฟที่จำเป็น

เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ

อุปกรณ์ชนิดนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของร้านกาแฟก็ว่าได้ เนื่องจากเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซเป็นตัวช่วยในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มกาแฟได้หลากหลายชนิด โดยปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อรสชาติคือความเสถียรของอุณหภูมิและแรงดันของน้ำที่ออกมาจากเครื่อง ซึ่งในการเลือกเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ ควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ 

• ความสามารถในการชงต่อเนื่อง

เพื่อคุณภาพกาแฟที่รสชาติดีสม่ำเสมอ ควรเลือกใช้เครื่องให้เหมาะสมเพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่เข้ามาเป็นจำนวนมากในบางช่วงเวลา โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องสามารถรองรับปริมาณคำสั่งซื้อที่ร้านคาดไว้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีลูกค้าจำนวนมาก จากขนาดและจำนวนของหม้อต้ม จำนวนหัวชง และการออกแบบเพื่อรักษาความเสถียรของแรงดันการจ่ายน้ำและอุณหภูมิ 

• ฟังก์ชันการใช้งาน 

เนื่องจากเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ มีทั้งแบบ Manual, Semi-Automatic, Automatic และ Super-Automatic Machines ปัจจุบันร้านกาแฟส่วนใหญ่ยังคงเลือกใช้การควบคุมการสกัดด้วยบาริสต้า ด้วยเครื่องชงกึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automatic แบบ Volumatic) ที่สามารถตั้งปุ่มกดปริมาณน้ำกาแฟที่ไหลออกได้ แต่ยังต้องอาศัยทักษะของบาริสต้าในการเตรียมผงบดกาแฟเพื่อคุมคุณภาพการสกัดอย่างสมบูรณ์ 

ส่วนหากเป็นร้านที่มีสาขาจำนวนมาก หรือร้านสะดวกซื้อที่จำหน่ายกาแฟ อาจเน้นระบบช่วยเหลือต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานที่ผ่านการฝึกเพียงเล็กน้อยสามารถใช้งานได้ง่าย เช่นเครื่อง Automatic การทำงานโดยใช้ปุ่มกดก็สามารถทำได้ทั้งหมดตั้งแต่การบดจนออกมาเป็นน้ำกาแฟ ซึ่งแต่ละแบบมีระดับการควบคุม ข้อจำกัด และความสะดวกสบายที่แตกต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน

• ความทนทานและการบำรุงรักษา

ควรเลือกเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซที่มีชื่อเสียงในด้านความน่าเชื่อถือและง่ายต่อการบำรุงรักษา รวมถึงต้องมาพร้อมกับบริการหลังการขาย และชิ้นส่วนอะไหล่ เพื่อให้สามารถรักษาสภาพการทำงานของเครื่องชงกาแฟที่เหมาะสมที่สุด

• ภาพลักษณ์

ปัจจุบันธุรกิจกาแฟมีการแข่งขันสูง คุณภาพอุปกรณ์ในร้านแสดงถึงภาพลักษณ์ของร้าน และเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความคาดหวังด้วย ดังนั้นควรสร้างจุดยืนของร้านในเรื่องของราคาและคุณภาพของอุปกรณ์ เพื่อให้ตอบสนองต่อความคาดหวังของกลุ่มลูกค้าด้วย

เครื่องบดกาแฟ

เครื่องบดกาแฟ นับว่ามีความสำคัญเช่นเดียวกับเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ เนื่องจากกาแฟที่บดใหม่ เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ได้รสชาติดีเยี่ยม รวมถึงขนาดของผงบดยังจะส่งผลต่อความสม่ำเสมอและความสามารถในการสกัดรสชาติ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรลงทุนกับเครื่องบดคุณภาพสูง เบื้องต้นควรมีคุณสมบัติดังนี้

• ขนาดการบดที่สม่ำเสมอ

เราแนะนำให้มองหาเครื่องบดแบบเฟือง (ฺBurr grinder) ไม่ว่าลักษณะเฟืองบดจะเป็นแบบ Flat Burr  หรือทรงกรวย Conical Burr เนื่องจากสามารถกำหนดขนาดผงบดดีกว่าเครื่องบดแบบใบมีด (ฺBlade grinder)

การสกัดรสชาติที่ดีของกาแฟต้องอาศัยความสามารถในการบดที่มีขนาดผงบดสม่ำเสมอ ทั้งนี้ขนาดของเฟืองบดและการออกแบบการทำงานของเครื่องบด รวมถึงความเร็วรอบหมุนและอุณหภูมิของเฟืองบด ล้วนมีผลต่อความสม่ำเสมอในการบด จึงควรเลือกให้เหมาะกับลักษณะและช่วงการใช้งานที่ต่อเนื่องสูงสุดในแต่ละวัน เพื่อรักษามาตรฐานรสชาติของกาแฟที่ดีเอาไว้ 

• ความสามารถในการปรับบด

ผู้ประกอบการควรมองหาเครื่องบดที่สามารถตั้งค่าและปรับระดับต่าง ๆ ได้ เพื่อรองรับวิธีการชงที่แตกต่างกัน ทั้งนี้เครื่องบดที่ออกแบบสำหรับเอสเปรสโซโดยเฉพาะอาจไม่เหมาะกับการเปลี่ยนการปรับขนาดผงบดหยาบและละเอียดที่มีความแตกต่างกันมากในแต่ละแก้ว เนื่องจากอาจมีผงบดจากการบดก่อนหน้าติดค้าง และความคลาดเคลื่อนของขนาดผงบดมีผลอย่างมากต่อการสกัด 

ในกรณีการบดหยาบสำหรับกาแฟดริป หรือเครื่องชงกาแฟแบบ French Press ควรเลือกเครื่องบดที่ได้ขนาดผงบดที่สม่ำเสมอสำหรับลักษณะผงบดที่ค่อนข้างหยาบปานกลาง-หยาบ ที่เหมาะสำหรับการสกัด

อุปกรณ์ชงกาแฟผ่านกระดาษกรอง Filter

ถึงแม้เครื่องดื่มที่มีเอสเปรสโซจะเป็นเมนูดาวเด่น แต่ลูกค้าหลายคนก็ยังชื่นชอบเสน่ห์ของกาแฟแบบดริปที่รักษากลิ่นและควบคุมการสกัดได้ง่ายกว่า ควรเลือกอุปกรณ์ใช้งาน ดังนี้

• เครื่องชงกาแฟ Batch Brewer

เครื่องชงกาแฟที่เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีปริมาณสูง ทำให้คุณสามารถชงกาแฟในปริมาณมากพร้อมกันได้ เหมาะสำหรับร้านที่ต้องการเสิร์ฟกาแฟในปริมาณมากพร้อมกันอย่างรวดเร็ว นิยมในกลุ่มชาวต่างชาติตะวันตก

• เครื่องชงกาแฟแบบแก้วเดียว Pour-Over/ Drip

เครื่องชงกาแฟที่เหมาะกับวิธีการชงกาแฟแบบแก้วต่อแก้ว Pour-Over ซึ่งต้องใช้เวลาและทักษะมากขึ้น แต่สามารถนำเสนอประสบการณ์รสชาติกาแฟแบบส่วนตัวและพรีเมียมให้แก่ลูกค้าได้

แผ่นรองและแทมเปอร์

แผ่นรองและแทมเปอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับกดไล่อากาศที่อยู่ในผงบดกาแฟในด้ามชงกาแฟให้แน่นและเรียบเสมอกัน ควรเลือกให้พอดีกับก้านชงกาแฟอย่างสนิทตามขนาดของอุปกรณ์ใส่ผงกาแฟ(Basket) ที่ใส่ในด้ามชง (53 มม. , 54 มม., 58 มม.) อีกทั้งแผ่นรองที่ดีควรมีคุณสมบัติปกป้องเคาน์เตอร์ของร้าน และให้ความมั่นคงในการกดกาแฟด้วย ในปัจจุบันสามารถเลือกใช้แทมเปอร์ที่มีสปริงกด หรือเครื่องแทมเปอร์อัตโนมัติช่วยทุ่นแรง และให้การสกัดกาแฟมีความสม่ำเสมอมากขึ้น

กาต้มน้ำ

อีกหนึ่งอุปกรณ์ร้านกาแฟที่สำคัญไม่แพ้อุปกรณ์ชนิดอื่น ๆ นั่นก็คือ กาต้มน้ำแบบคอห่านตั้งอุณหภูมิได้ (Electornic Goose Neck Kettle) ที่เหมาะสำหรับการชงกาแฟแบบ Pour-Over เนื่องจากตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการสกัดกาแฟช่วยให้การไหลของน้ำและการกระจายบนเมล็ดกาแฟมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

เครื่องชั่ง และอุปกรณ์ตวง

ความแม่นยำในอัตราส่วนของกาแฟต่อน้ำ มีผลกับรสชาติของกาแฟที่สม่ำเสมอ ตาชั่งดิจิทัลที่มีความแม่นยำ (ละเอียด 0.1 ก.) ช่วยให้มั่นใจว่าการตวงเมล็ดกาแฟ ผงบดและน้ำ ได้ตามอัตราส่วนที่ตั้งไว้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทำให้การสกัดกาแฟสม่ำเสมอ นอกจากนี้แก้วหรือถ้วยตวงวัดสามารถเป็นทางเลือกในการใช้วัดปริมาตรของวัตถุดิบรวมถึงน้ำกาแฟได้เช่นกัน 

นาฬิกาจับเวลา

ในการสกัดกาแฟรวมถึงชา การควบคุมคุณภาพอย่างหนึ่งคือระยะเวลาที่ใช้สำหรับการสกัด ควรมีนาฬิกาจับเวลาเพื่อให้กระบวนการผลิตได้ตามมาตรฐานและเหมาะสมด้วย

อุปกรณ์เสิร์ฟและอื่น ๆ

ถ้วยและแก้วมัค

อุปกรณ์ร้านกาแฟที่ขาดไม่ได้เลย คือถ้วยและแก้วมัค โดยควรเลือกที่มีความหลากหลาย ตั้งแต่ขนาดช็อตเอสเปรสโซไปจนถึงแก้วมัคขนาดใหญ่สำหรับลาเต้และคาปูชิโน รวมถึงแก้วสำหรับใส่กาแฟแบบกลับบ้านอีกด้วย แก้วเซรามิก / แก้ว (สามารถใช้แทนกันได้):

• Espresso: 2-3 oz (60-90 มล.)

• Cappuccino: 5-6 oz (150-180 มล.)

• Americano / Black Coffee: 8-10 oz (240-300 มล.)

• Latte: 10-12 oz (280-350 มล.)

แก้ว Take Away (Disposable Cup):

• Espresso: 3 oz (90 มล.)

• Americano / Black Coffee: 8-12 oz (240-350 มล.)

• Cappuccino: 12 oz (350 มล.)

• Latte: 12-16 oz (350-470 มล.)

• Cold Brew / Iced Coffee: 12-22 oz (360-660 มล.)

แก้วช็อต

แก้วช็อต มีประโยชน์สำหรับการตวงช็อตเอสเปรสโซ หรือน้ำเชื่อมต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้แน่ใจว่าเครื่องดื่มที่จะเสิร์ฟให้ลูกค้า มีส่วนผสมของเอสเปรสโซที่มีความสม่ำเสมอ และตรงตามสูตรที่ต้องการ ควรตรวจสอบก่อนนำมาใช้ว่าปริมาณที่ระบุมีความคลาดเคลื่อนมากน้อยเพียงใดก่อนนำมาใช้ 

เทอร์โมมิเตอร์

อุปกรณ์ร้านกาแฟที่จำเป็นสำหรับการตีฟองนมเพื่อให้ได้อุณหภูมิที่พอดี ช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสและความหวานของนมโดยไม่ทำให้ร้อนจนเกินไป รวมถึงเช็คอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ในการสกัดกาแฟดริปด้วย

อุปกรณ์ทำความสะอาด

การทำความสะอาดทุกวันอย่างพิถีพิถัน เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลรักษาอุปกรณ์และรักษาคุณภาพของกาแฟ โดยต้องดูแลความสะอาดของหัวชง เครื่องชงเอสเปรสโซ และก้านไอน้ำและกาน้ำนม รวมถึงอุปกรณ์ร้านกาแฟ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของลูกค้า และภาพลักษณ์ที่ดีของร้าน

ระบบกรองน้ำ

เนื่องจากคุณภาพของน้ำส่งผลโดยตรงต่อรสชาติของกาแฟ น้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำสะอาดปราศจาก สี กลิ่น รส ที่รบกวนรสชาติของกาแฟ รวมถึงค่าแร่ธาตุที่เหมาะสมในการสกัดรสชาติด้วย ค่าแร่ธาตุหรือสารละลายที่อยู่ในน้ำ (Total Dissolove Solit) ตามมาตรฐาน ควรอยู่ในช่วง 75-150 ppm ทั้งนี้หากเครื่องชงต้องการแรงดันน้ำเพื่อส่งต่อเข้าเครื่องชง ควรมีถังพักน้ำและปั๊มเพื่อต่อสำหรับเข้าเครื่องชงด้วย

ตู้เย็น

ตู้เย็นเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ชิ้นสำคัญ เนื่องจากจำเป็นสำหรับการเก็บนม ครีม และวัตถุดิบสดใหม่  โดยผู้ประกอบการควรพิจารณาขนาดและพื้นที่ของร้าน เพื่อเลือกซื้อตู้เย็นที่เหมาะสม และแน่ใจว่าสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างสะดวก

เครื่องปั่น

อีกหนึ่งอุปกรณ์เปิดร้านกาแฟที่สร้างความหลากหลายในเมนูต่าง ๆ สำหรับการทำแฟรปเป้และเครื่องดื่มปั่นอื่น ๆ ช่วยขยายเมนู เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ไม่ดื่มกาแฟได้อีกด้วย ทั้งนี้แนะนำให้พิจารณาเครื่องปั่นที่มีรอบปั่นสูง จะทำให้สัมผัสของเครื่องดื่มเนียนและละเอียดกว่า

ระบบ POS

ระบบ POS เป็นอุปกรณ์ที่สามารถช่วยบริหารการทำงานหน้าร้านให้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น ทั้งการรับออเดอร์ การชำระเงิน ติดตามยอดขาย จัดการสินค้าคงคลัง และยกระดับการบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง

 บรรยากาศของร้าน มีความสำคัญไม่แพ้รสชาติของกาแฟ ผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า Branding รวมถึงเรื่องของบรรยากาศและคุณภาพวัสดุเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ เพื่อช่วยให้ลูกค้านั่งดื่มกาแฟได้อย่างสบาย ปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจร้านกาแฟสูง ควรพิจารณาให้ดีก่อนการลงทุน

นี่คืออุปกรณ์เปิดร้านกาแฟที่เราได้รวบรวมมาแนะนำกัน และสำหรับใครที่ต้องการเปิดประตูสู่ทางลัดการเป็นเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟ ที่ Dao Coffee เรามีบริการให้คำปรึกษาและวางแผนธุรกิจร้านกาแฟ ทั้งยังรับผลิตเมล็ดกาแฟราคาส่ง แบบครบวงจร ด้วยวัตถุดิบจากแหล่งปลูกเดียว มั่นใจได้ว่าคุณจะได้เมล็ดกาแฟที่ตรงกับความต้องการ สามารถสร้างสรรค์เมนูกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ได้อย่างแน่นอน สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง LINE Official และเบอร์ 081-854-8277